โลโก้เว็บไซต์  อาจารย์ มทร.ล้านนา ได้รับรางวัลพระราชทาน นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2559 | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

อาจารย์ มทร.ล้านนา ได้รับรางวัลพระราชทาน นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2559

เผยแพร่เมื่อ : พฤหัสบดี 3 พฤศจิกายน 2559 โดย วิทยา กวีวิทยาภรณ์ จำนวนผู้เข้าชม 1075 คน

ยังไม่มีคะแนนสำหรับบทความนี้ ผู้อ่านสามารถให้คะแนนบทความได้จากปุ่มข้างใต้

รศ.ดร.พานิช อินต๊ะ อาจารย์ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มทร.ล้านนา ได้รับรางวัลพระราชทาน "นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2559" จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จากผลงานเครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ในอากาศด้วยเทคนิคไฟฟ้าสถิต เครื่องวัดปริมาณมวลฝุ่นละออง PM10 และ PM2.5 ในอากาศที่พัฒนาขึ้นใช้หลักการวัดกระแสไฟฟ้าสถิต (Electrostatic current) ของอนุภาคผ่านตัวกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (High Efficiency Particulate-Free Air Filter หรือ HEPA) สามารถตรวจจับและเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในอากาศทั้งฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร (PM10) และ 2.5 ไมโครเมตร (PM2.5) ได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาในการประมวลผลเร็วถึง 0.1 วินาที มีช่วงการวัดระหว่าง 0 ถึง 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เครื่องต้นแบบสามารถทำงานได้เทียบเคียงกับเครื่องมือที่มีใช้ในปัจจุบัน เช่น ParticleScan, Thermo Scientific TEOM Series 1400ab, Thermo Scientific Model 5014i Beta, Thermo Scientific Model FH62C14 Beta Gauge จึงทำให้สามารถศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของฝุ่นละอองในอากาศได้ มีการเชื่อมโยงข้อมูลผลการตรวจวัดแบบไร้สายผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G และสามารถแสดงผลการวัด บันทึกข้อมูล และแสดงผลเป็นกราฟและตารางในเชิงปริมาณฝุ่นต่อเวลาในเว็บบราวน์เซอร์ http://cmuccdc.org/ หรือ http://www.livebox.me /ruee2559/ หรือ www.ruee-rmutl.com การบำรุงรักษาต่ำ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 1,000 ชั่วโมง ใช้วัสดุอุปกรณ์หลายๆ ส่วนทดแทน ฝีมือ เครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตในการประกอบติดตั้งและสร้างจากภายในประเทศ 100% มีการออกแบบเครื่องให้มีขนาดที่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายและทนทาน เหมาะสำหรับงานภาคสนาม เครื่องต้นแบบได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัท เฟบิกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยในการผลิตเพื่อเชิงพาณิชย์ ในปัจจุบันเครื่องต้นแบบได้ทำการติดตั้งและใช้ประโยชน์จริงจำนวน 5 สถานีในภาคเหนือและภาคใต้ คือ 1) สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ 2) สถานีตรวจวัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2) สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 3) สถานีตรวจวัด มทร.ล้านนา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ 5) สถานีตรวจวัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่







ออกแบบและพัฒนาโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา